พรีวิว : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น
17 กันยายน 2556 9,774
สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด, อังกฤษ
รายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม (กลุ่ม เอ)
เวลา 01.45 น. วันพุธที่ 18 กันยายน 2556 (คืนวันอังคาร)
ถ่ายทอดสด ทรูสปอร์ต 1 (HD2), ช่อง 3
ดูออนไลน์ Live TV
ทายผล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น
ผู้ตัดสิน ดาเมียร์ สโคมิน่า (สโลวีเนีย)
ผู้ช่วยผู้ตัดสิน มาเต็จ ซูนิค, โบยาย อุย (สโลวีเนีย)
ผู้ตัดสินที่สี่ ไพรมอซ อาร์ฮาร์ (สโลวีเนีย)
เดวิด มอยส์ จะได้สัมผัสการแข่งขันยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นครั้งแรกในฐานะผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยจะเปิดบ้านพบกับไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ที่คุมทีมโดย ซามี่ ฮูเปีย ซึ่งคงไม่ต้องแนะนำอะไรกันมาก
ฤดูกาลนี้ถือเป็นปีที่ 18 ติดต่อกันแล้วที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้เข้าร่วมการแข่งขันในศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก แต่สำหรับมอยส์แล้วนี่จะเป็นครั้งแรกที่เขาได้ลิ้มรสการแข่งขันรายการนี้ เช่นเดียวกับฮูเปียที่จะได้คุมทีมลงเล่นในถ้วยนี้เป็นครั้งแรกเช่นกัน หลังจากที่เขาคว้าแชมป์มาแล้วในฐานะนักเตะกับลิเวอร์พูลในปี 2005
สำหรับทีมปีศาจแดง เกมนี้พวกเขาจะต้องขาด หลุยส์ นานี่ ที่ยังติดโทษแบนจากใบแดงที่พบกับเรอัล มาดริด ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายเมื่อฤดูกาลก่อน ส่วน เวย์น รูนี่ย์ สามารถลงเล่นได้โดยสวมเครื่องป้องกันศีรษะอย่างที่เขาใส่ในเกมเอาชนะคริสตัล พาเลซ 2-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งเกมดังกล่าวเขาก็ยิงฟรีคิกเป็นประตูได้ด้วย
ทางด้านเลเวอร์คูเซ่นนั้นจะขาด โดมินิก โคห์เรอร์ (เข่า) และ นิคลาส แลมบ์ (ข้อเท้า) ซึ่งทั้งคู่บาดเจ็บมาตั้งแต่ช่วงฝึกซ้อมในวันที่ 6 สิงหาคม โดยทีมห้างขายยาน่าจะส่ง สเตฟาน คีสลิงก์ ศูนย์หน้าตัวเก่งลงสนาม โดยในปี 2013 เขาเป็นนักเตะที่ยิงได้มากที่สุดในบุนเดสลีกาที่จำนวน 17 ประตู
การพบกันที่ผ่านมา
– เลเวอร์คูเซ่นเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปได้ด้วยกฏประตูทีมเยือน ในการพบกันเป็นครั้งแรกของทั้งคู่ในรอบรองชนะเลิศฤดูกาล 2001/02
– เลกแรกนั้นจบลงด้วยการเสมอกัน 2-2 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกนำไปก่อน 2 ครั้งจากการทำเข้าประตูตัวเองของ บอริส ซิฟโควิช และ รุด ฟาน นิสเตลรอย ส่วนทีมเยือนมาได้ประตูจาก มิชาเอล บัลลัค และ โอลิเวอร์ นอยวิลล์ ส่วนในเกมที่ 2 รอย คีน ยิงให้ทีมปีศาจแดงออกนำไปก่อน และนอยวิลล์ก็มาตีเสมอได้ในนาทีที่ 45 ทำให้เลเวอร์คูเซ่นของ เคล้าส์ ท็อปป์โมลเลอร์ ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปด้วยกฏประตูทีมเยือน
– ไรอัน กิ๊กส์ คือนักเตะคนเดียวที่ยังหลงเหลือมาจากเกมดังกล่าวที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด โดย ฟิล เนวิลล์ ได้ผันตัวไปเป็นโค้ช และใน 2 เกมนั้น ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ซึ่งได้กลายมาเป็นนักเตะของทีมปีศาจแดงก็ได้ลงเล่นให้กับเลเวอร์คูเซ่นด้วย
– จากนั้นในฤดูกาลต่อมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ได้มาเจอกับเลเวอร์คูเซ่นอีกครั้งในรอบแบ่งกลุ่ม คราวนี้ทีมปีศาจแดงบุกไปเอาชนะได้ 2-1 ในเดือนกันยายน 2002 โดยได้ประตูจาก ฟาน นิสเตลรอย 2 ลูก ก่อนที่เบอร์บาตอฟจะยิงตีตื้นขึ้นมา
– ในการเจอกันที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ฤดูกาลดังกล่าว แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะไป 2-0 จากประตูของ ฮวน เซบาสเตียน เวรอน และ ฟาน นิสเตลรอย หลังจากที่ แยน ซิมัก ของทีมเยือนยิงลูกจุดโทษพลาด ทีมปีศาจแดงผ่านเข้ารอบเป็นแชมป์กลุ่ม ส่วนเลเวอร์คูเซ่นตามเข้าไปเป็นอันดับ 2
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ผู้จัดการทีม เดวิด มอยส์
– นี่จะเป็นเกมยุโรปนัดแรกของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ไม่มี เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คุมทีมข้างสนาม หลังจากวันที่ 20 มีนาคม 1985 ซึ่ง รอน แอตกินสัน ทำหน้าที่คุมทีมในรอบก่อนรองชนะเลิศยูฟ่า คัพ พบกับวิดีโอตัน เอฟซี ของฮังการี เกมนั้นทีมปีศาจแดงแพ้ไป 0-1 ผลประตูรวม 1-1 ต้องไปดวลจุดโทษ และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็แพ้ไป 4-5
– ในเกมเหย้าในแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลก่อน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะกาลาตาซาราย และเอสซี บราก้า ได้ แต่ก็แพ้ไป 2 เกมหลังสุดให้กับซีเอฟอาร์ คลูช และเรอัล มาดริด ทำให้พวกเขาจบลงแค่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ทีมแชมป์จากอังกฤษเก็บชัยชนะในบ้านได้แค่ 3 ครั้งเท่านั้นจาก 9 เกมหลังสุดในเกมยุโรป และก็แพ้ถึง 4 ครั้งจาก 6 เกมหลังสุด
– ในการเปิดบ้านพบกับทีมจากเยอรมันครั้งล่าสุดของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้นเป็นการเอาชนะชาลเก้ไป 4-1 ในรอบรองชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2010/11 และผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ด้วยผลประตูรวม 6-1 ถือว่าเป็นชัยชนะในบ้านเกมที่ 5 ติดต่อกันแล้วเมื่อพบกับทีมจากเยอรมัน โดยเลเวอร์คูเซ่นเป็นทีมล่าสุดที่รอดพ้นความพ่ายแพ้ได้ในฤดูกาล 2001/02 สถิติโดยรวมตอนนี้คือชนะ 7 เสมอ 3 และแพ้ 2
– การคุมทีมพบกับทีมจากเยอรมันครั้งเดียวของ เดวิด มอยส์ เกิดขึ้นในรอบแบ่งกลุ่มยูฟ่า คัพ 2007/08 โดยพบกับเนิร์นแบร์ก
– ชินจิ คากาวะ เคยยิงประตูให้โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เอาชนะเลเวอร์คูเซ่น 1-0 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2012
รายชื่อผู้เล่นในแชมเปี้ยนส์ ลีก
ผู้รักษาประตู ดาบิด เด เคอา, อันเดอร์ส ลินเดการ์ด, แซม จอห์นสโตน*
กองหลัง ราฟาเอล ดา ซิลวา, ปาทริซ เอฟร่า, ฟิล โจนส์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, จอนนี่ อีแวนส์, คริส สมอลลิ่ง, เนมานย่า วิดิช, ฟาบิโอ ดา ซิลวา, อเล็กซานเดอร์ บุตต์เนอร์, ทอม ธอร์ป*
กองกลาง แอนเดอร์สัน, ไรอัน กิ๊กส์, ไมเคิล คาร์ริค, หลุยส์ นานี่, แอชลี่ย์ ยัง, ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ชินจิ คากาวะ, วิลเฟรด ซาฮา, มารูยาน เฟลไลนี่, ลาร์เนลล์ โคล*, เจสซี่ ลินการ์ด*
ศูนย์หน้า เวย์น รูนี่ย์, ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ, แดนนี่ เวลเบ็ค, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, วิลล์ คีน*
*ลิสต์ บี
ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น
ผู้จัดการทีม ซามี่ ฮูเปีย
– เลเวอร์คูเซ่นเก็บชัยชนะได้ 2 เกมในยูโรปา ลีก ฤดูกาลที่แล้ว เป็นการเจอกับโรเซนบอร์ก และราปิด เวียนนา แต่ก็แพ้ให้กับเมตาลิสต์ และเบนฟิก้าด้วยเช่นกัน ความพ่ายแพ้ 1-2 ที่ลิสบอนทำให้พวกเขาจบลงที่รอบ 32 ทีมสุดท้าย
– นี่ถือเป็นรอบแบ่งกลุ่มครั้งที่ 3 แล้วสำหรับเลเวอร์คูเซ่น นับตั้งแต่พวกเขาพบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2002/03 โดยในฤดูกาล 2004/05 และ 2011/12 พวกเขาผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้ ในรอบแบ่งกลุ่มครั้งหลังนั้นพวกเขาอยู่กลุ่มเดียวกับเชลซีด้วย โดยแพ้ไป 0-2 ที่ลอนดอน แต่ก็กลับเอาชนะได้ในบ้านอีก 2 เดือนต่อมา โดยได้ประตูจาก เอเรน แดร์ดิย็อก และ มานูเอล ฟรีดริช
– เลเวอร์คูเซ่นยังคงมองหาชัยชนะนัดแรกในอังกฤษ หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีสถิติชนะ 0 เสมอ 2 และแพ้ 6
– ในการค้าแข้งกับลิเวอร์พูลของ ซามี่ ฮูเปีย ระหว่างปี 1999 ถึง 2009 เขาลงเล่นให้กับทีมไป 318 เกม โดยเขามีสถิติการมาเยือนโอลด์ แทรฟฟอร์ด คือชนะ 4 เสมอ 0 และแพ้ 5 เขายังอยู่ในทีมลิเวอร์พูลชุดเอาชนะทีมปีศาจแดง 2-0 ในนัดชิงชนะเลิศลีก คัพ 2003 ด้วย
ผลการแข่งขัน
13 พฤศจิกายน 2002 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 – 0 ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น (รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอฟ)
24 กันยายน 2002 : ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น 1 – 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอฟ)
30 เมษายน 2002 : ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น 1 – 1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (รอบรองชนะเลิศ นัดที่สอง)
คะแนนรวม 3-3 แมนฯ ยูไนเต็ด ตกรอบด้วยกฎประตูทีมเยือน
24 เมษายน 2002 : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 – 2 ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น (รอบรองชนะเลิศ นัดแรก)
SiR KeaNo, Por